เมนู

5. ทันตภูมิสูตร



[388] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ที่พระหารเวฬุวัน อันเคย
เป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต กรุงราชคฤห์ สมัยนั้นแล สมณุท-
เทสอจิรวตะอยู่ในกระท่อมในป่า ครั้งนั้น พระราชกุมารชยเสนะ ทรงพระ
ดำเนินทอดพระชงฆ์เที่ยวเล่นไปโดยลำดับ เข้าไปหาสมณุทเทสอจิรวตะ ครั้น-
แล้วได้ตรัสทักทายปราศรัยกับสมณุทเทสอจิรวตะ. ครั้นผ่านคำทักทายปราศรัย
พอให้ระลึกถึงกัน ไปแล้ว ได้ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[389] พระราชกุมารชยเสนะ พอประทับนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้รับ
สั่งกะสมณุทเทสอจิรวตะดังนี้ว่า ข้าแต่ท่านอัคคิเวสสนะผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้
สดับมาดังนี้ว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่ง
ไปแล้วพึงสำเร็จเอกัคคตาแห่งจิตได้.
สมณุทเทสอจิรวตะถวายพระพรว่า ดูก่อนพระราชกุมาร ข้อนั้นถูก
ต้องแล้ว ๆ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไป
แล้ว พึงสำเร็จเอกัคคตาแห่งจิตได้.
ร. ดีแล้ว ขอท่าอัคคิเวสสนะโปรดแสดงธรรมตามที่ได้สดับ ตาม
ที่ได้ศึกษามาแก่ข้าพเจ้าเถิด.
[390] อ. ดูก่อนพระราชกุมาร อาตมภาพไม่อาจจะแสดงธรรม
ตามที่ได้สดับ ตามที่ได้ศึกษามาแก่พระองค์ได้ เพราะถ้าอาตมาภาพพึงแสดง
ธรรมตามที่ได้สดับ ตามที่ได้ศึกษามาแก่พระองค์ และพระองค์ไม่ทรงทราบ

อรรถแห่งภาษิตของอาตมภาพได้ ข้อนั้นจะเป็นความยาก จะเป็นความลำบาก
ของอาตมภาพ.
ร. ขอท่านอัคคิเวสสนะโปรดแสดงธรรมตามที่ได้สดับ ตามที่ได้
ศึกษามาแก่ข้าพเจ้าเถิด บางทีข้าพเจ้าจะพึงทราบอรรถแห่งภาษิตของท่าน
อัคคิเวสสนะได้.
อ. ดูก่อนพระราชกุมาร อาตมภาพจะพึงแสดงธรรมตามที่ได้สดับ
ตามที่ได้ศึกษามาแก่พระองค์ ถ้าพระองค์ทรงทราบอรรถแห่งภาษิตของ
อาตมภาพได้นั้นเป็นความดี ถ้าไม้ทรงทราบ ขอพระองค์พึงดำรงอยู่ในภาวะ
ของพระองค์ตามที่ควรเถิด อย่าได้ซักถามอาตมภาพในธรรมนั้นให้ยิ่งขึ้นไปเลย.
ร. ขอท่านอัคคิเวสสนะโปรดแสดงธรรมตามที่ได้สดับ ตามที่ได้
ศึกษามาแก่ข้าพเจ้าเถิด ถ้าข้าพเจ้าทราบอรรถแห่งภาษิตของท่านอัคคิเวสสนะ
ได้ นั้นเป็นความดี ถ้าไม่ทราบ ข้าพเจ้าจักดำรงอยู่ในภาวะของตนตามที่ควร
ข้าพเจ้าจักไม่ซักถามท่านอัคคิเวสสนะในธรรมนั้นให้ยิ่งขึ้นไป.

ว่าด้วยการเข้าไปเฝ้าพระผู้มีประภาคเจ้า


[391] ลำดับนั้นแล สมณุทเทสอจิรวตะได้แสดงธรรมตามที่ได้สดับ
ตามที่ได้ศึกษามาแก่พระราชกุมารชยเสนะ เมื่อสมณุทเทสอจิรวตะกล่าวแล้ว
อย่างนั้น พระราชกุมารชยเสนะได้ตรัสกะสมณุทเทสอจิรวตะดังนี้ว่า ข้าแต่
ท่านอัคคิเวสสนะผู้เจริญ ข้อที่ภิกษุไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว
พึงสำเร็จเอกัคคตาแห่งจิต นั่นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส ต่อนั้น พระราชกุมาร-
ชยเสนะ ทรงประกาศความไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาสแต่สมณุทเทสอจิรวตะแล้ว
ทรงลุกขึ้นจากอาสนะเสด็จหลีกไป.